เลือกแฟลชไดร์ฟอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจ

การสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายด้วยการแจกของพรีเมี่ยมเป็นแฟลชไดร์ฟ USB คือวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง เพราะแฟลชไดร์ฟกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อธุรกิจหรือส่วนตัว แฟลชไดร์ฟถือเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการถ่ายโอนและจัดเก็บไฟล์ดิจิทัลทุกประเภท อาทิ ไฟล์เอกสาร แอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ รูปภาพ เพลง วีดีโอ หรือข้อความจำนวนมาก โดยมีความปลอดภัยสูง และไม่มีการพึ่งพาอินเทอร์เน็ต ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะไม่ต้องค้นหาฮอตสปอต WiFi เพื่อเข้าถึงเอกสารสำคัญหรือเพลงโปรด

วิธีเลือกแฟลชไดร์ฟที่ดีที่สุด

ของพรีเมี่ยม ของที่ระลึก แฟลชไดร์ฟ จะมีข้อกำหนดบางอย่างก่อนที่คุณจะสั่งทำ เช่น ความจุ ความเข้ากันได้ ขนาดทางกายภาพ เป็นต้น แต่ยังมีข้อกำหนดอื่นๆ ที่คุณควรมองหาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุด จากการซื้อ ก่อนที่จะเลือกซื้อคุณควรประเมินความต้องการของคุณ

  1. คุณจะเก็บอะไรไว้ในแฟลชไดร์ฟ เป็นภาพถ่าย วิดีโอ เพลง หรืออย่างอื่น
  2. คุณจะพกพาติดตัวไปบ่อยแค่ไหน
  3. คุณจะอ่านไฟล์จากไดร์ฟบ่อยกว่าการเขียนลงในไดร์ฟหรือไม่ หรือเป็นวิธีอื่นๆ
  4. มีคุณลักษณะเฉพาะที่คุณต้องการหรือไม่
  5. งบประมาณของคุณคืออะไร

1. พื้นที่จัดเก็บ ใส่ข้อมูลได้มากกว่าที่คุณต้องการ

ทั้งหมดขึ้นอยู่กับไฟล์ที่คุณต้องการบันทึกหรือถ่ายโอนความต้องการที่แตกต่างกันไป หากคุณกำลังวางแผนที่จะใช้สำหรับไฟล์เพลง วิดีโอ หรือภาพถ่าย คุณจะต้องใช้พื้นที่มากกว่าที่คุณกำลังใช้เพื่อถ่ายโอน หรือบันทึกไฟล์ข้อความ คุณควรซื้อไดร์ฟที่มีความจุมากกว่าที่คุณคิดไว้เสมอ ซึ่งแฟลชไดร์ฟส่วนใหญ่จะมีขนาดดังนี้

– 2 GB แม้ว่าจะมีแฟลชไดร์ฟที่มีพื้นที่น้อยกว่า 2 GB แต่โดยปกติแล้วเป็นจำนวนขั้นต่ำที่ผู้คนจะใช้ เนื่องจากมีความจำเป็นในการจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่บางไฟล์พร้อมกับไฟล์ขนาดเล็ก ความจุ 2 GB สามารถเก็บไฟล์เอกสารได้ถึง 50,000 ไฟล์ และฟังเพลงได้นาน 500 นาที อย่างไรก็ตามมีขนาดไม่ใหญ่พอที่จะมีไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ เช่น MP4 และรูปแบบอื่นๆ

– 4 GB ด้วยพื้นที่สองเท่าของแฟลชไดร์ฟ 2 GB จึงเหมาะสำหรับการใช้งานระดับปานกลาง นักเรียน นักศึกษามักจะใช้เพื่อสำรองข้อมูลโครงการ และเอกสาร เนื่องจาก 4 GB เพียงพอที่จะรองรับไฟล์ประเภทนี้จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีประโยชน์สำหรับการจัดเก็บ และโอนไฟล์รูปภาพ เพลง และวิดีโอจำนวนเล็กน้อย

– 8 GB ด้วยแฟลชไดร์ฟ 8 GB คุณสามารถจัดเก็บไฟล์ได้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถจัดเก็บไฟล์ภาพ และเพลงได้หลายพันไฟล์ และเหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิศ หรือคนอื่นๆ ที่ต้องการใช้เพื่อสำรองบันทึกที่มีมูลค่าหลายปีภายในอุปกรณ์เดียว

– 16 GB หากคุณวางแผนที่จะจัดเก็บ และถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ หรือไฟล์มีเดีย แฟลชไดร์ฟขนาด 16 GB ขึ้นไปจะเหมาะที่สุดสำหรับวัตถุประสงค์นี้ อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายโอนไฟล์เพลงหลายพันไฟล์พร้อมกับไฟล์วิดีโอ และอื่นๆ

– 32 GB ขนาดแฟลชไดร์ฟนี้สามารถทำงานได้หลายอย่างรวมถึงการเก็บไฟล์ข้อมูลหลายพันไฟล์ การถ่ายโอนไฟล์ วิดีโอ ความละเอียดสูงจำนวนมาก ไลบรารีไฟล์เพลง และภาพถ่ายทั้งหมด คุณยังสามารถจัดเก็บโปรแกรมต่างๆ ได้อีกด้วย

2. ขนาดภายนอก : ยิ่งเล็กยิ่งดี

สิ่งนี้อาจฟังดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าคุณวางแผนที่จะพกติดตัวไปไหนมาไหนตลอดเวลาในกระเป๋ากุญแจ หรือในกระเป๋าของคุณ ควรเลือกขนาดเล็ก นอกจากนี้ให้มองหาแบบพับได้ หรือมีฝาปิด เพื่อป้องกันชิ้นส่วนโลหะที่เสียบเข้ากับพอร์ต USB ซึ่งเป็นตัวช่วยปกป้องไดร์ฟจากการสึกหรอ แต่ต้องระวังฝาปิดหล่นหาย

3. USB 3.0 หรือ 2.0 : ควรใช้ได้ทั้งสองอย่าง

ควรซื้อไดร์ฟที่รองรับ USB 3.0 แต่ยังสามารถใช้งานร่วมกับ USB 2.0 ได้ด้วย นั่นจะทำให้แน่ใจได้ว่าคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และเข้ากันได้กับเครื่องจำนวนมากที่สุด การซื้อไดร์ฟที่รองรับทั้ง USB 3.0 และ 2.0 จะช่วยให้คุณสามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ทุกรุ่น

4. ความเร็วในการอ่าน : ยิ่งเร็วยิ่งดี

ความเร็วที่คุณจะเข้าถึงไฟล์ที่คุณคัดลอกไปยังแฟลชไดร์ฟของคุณ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี หากคุณกำลังคัดลอกไฟล์เพลง หรือไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ซึ่งคุณจะเห็นได้ชัด ความเร็วสูงสุดที่รองรับโดยข้อกำหนด USB 3.0 / 2.0 ไม่เกิน 60 MB/s แต่บางรุ่นมีประมาณ 30 MB/s ถือเป็นเรื่องปกติ และหากคุณกำลังดู USB 3.0 คุณควรมองไปที่ประมาณ 100 MB/s 

5. ความเร็วในการเขียน : ยิ่งเร็วยิ่งดี

คุณวางแผนที่จะใช้แฟลชไดร์ฟเพื่อสำรองไฟล์หรือแอปพลิเคชันบ่อยๆหรือไม่ นี่คือความเร็วที่คุณจะเขียนไฟล์ลงในไดร์ฟ ยิ่งเร็วเท่าไหร่การสำรองข้อมูลของคุณก็จะเร็วขึ้นเท่านั้น โดยพบว่าพื้นฐานจะอยู่ที่ประมาณ 5 MB/s ซึ่งค่อนข้างช้าสำหรับการเขียน ควรหาขนาดอย่างน้อย 10 MB/s สำหรับข้อกำหนด USB 2.0 USB 3.0 นั้นเร็วกว่ามากเช่น 100 MB/s

6. การเข้ารหัส

คุณวางแผนที่จะเดินทางพร้อมข้อมูลลับในไดร์ฟของคุณ หรือคุณมีอะไรที่คุณไม่ต้องการให้คนอื่นเห็น หรือคุณเกรงว่าอาจทำมันหายโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นนี้คุณอาจต้องดูคุณสมบัติการเข้ารหัสของไดร์ฟ คุณสามารถเลือกระหว่างการเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์ คุณอาจต้องศึกษาคู่มือผู้ใช้ หรือข้อมูลจำเพาะโดยละเอียดของไดร์ฟเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

7. คุณสมบัติอื่นๆ ที่มากับไดร์ฟ

ผู้ผลิตบางรายจัดหาซอฟต์แวร์เพิ่มเติมพร้อมกับการซื้อไดร์ฟ เช่น เครื่องเล่น MP3 และเกม เป็นต้น คุณควรจะหลีกเลี่ยงไดร์ฟเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะพบว่ามันน่ารำคาญมากกว่าสิ่งอื่นใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเริ่มดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ทุกชนิด และติดตั้งลงในเครื่องของคุณ

8. ราคา

ตอนนี้สิ่งหนึ่งที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจของคุณมากที่สุดคือราคา เปรียบเทียบราคาของแฟลชไดร์ฟที่คุณเลือก และเลือกที่คุณต้องการมากที่สุด โดยอยู่ในงบประมาณของคุณ และโปรดจำไว้ว่าราคาถูกที่สุดไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป เพราะนั่นหมายถึงคุณจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากขึ้นในระยะยาว

ตอนนี้คุณได้ระบุคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับคุณแล้ว เราขอแนะนำให้ดูความเร็วในการอ่าน และเขียนอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการของคุณ นอกเหนือจากพื้นที่เก็บข้อมูล และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ใครคือเรื่องของคุณภาพ หากผู้รับได้รับของที่ไม่มีคุณภาพไป ภาพลักษณ์ของคุณอาจเสียหายได้ แต่หากเลือกของมีคุณภาพ ก็จะทำให้ผู้รับจะสามารถจดจำ และภัดดีต่อแบรนด์ของคุณอย่างแน่นอน

References : https://blog.logox.co.uk/promotional-usb-sticks-get-creative-memory-drives/
                      https://www.everyusb.com/determine-right-flash-drive-size
                     https://www.lostsaloon.com/technology/how-to-choose-the-right-usb-flash-drive/